1)
รังสีปริมาณเท่าใดที่เริ่มก่อให้เกิดอาการผิดปกติของร่างกาย
ก.
125 มิลลิซีเวิร์ต
ข.
250 มิลลิซีเวิร์ต
ค.
500 มิลลิซีเวิร์ต
ง.
1,000 มิลลิซีเวิร์ต
ตอบ ค.
2)
ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับสารประกอบโคเวเลนต์
ก.
สารประกอบโคเวเลนต์ทุกชนิดสามารถละลายน้ำได้ดี
ข.
สารประกอบโคเวเลนต์ที่มีสภาพขั้วแรงมากเมื่อละลายน้ำแล้วจะนำไฟฟ้าได้
ค.
สารประกอบโคเวเลนต์มีจุดเดือด จุดหลอมเหลวต่ำเมื่อเทียบกับสารประกอบไอออนิก
ง.
สารประกอบโคเวเลนต์เกิดจากอะตอมของธาตุอโลหะกับธาตุอโลหะ
ตอบ ข.
3)
สารประกอบในข้อใดที่มีจุดเดือด จุดหลอมเหลวสูงมากที่สุด
ก.
โซเดียมคาร์บอเนต
ข.
คาร์บอนไดออกไซด์
ค.
ไนโตรเจน
ง.
โบรมีน
ตอบ ก.
4)
แรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลของสารชนิดใดเป็นแรงลอนดอน
ก.
เอทิลแอลกอฮอล์
ข.
น้ำ
ค.
แก๊สออกซิเจน
ง.
เกลือแกง
ตอบ ค.
5)
ธาตุคู่ใดต่อไปนี้ที่รวมกันแล้วเกิดเป็นสารประกอบโคเวเลนต์
ก.
เหล็กกับคลอรีน
ข.
โซเดียมกับออกซิเจน
ค.
ฟลูออรีนกับออกซิเจน
ง.
โพแทสเซียมกับคลอรีน
ตอบ ค.
6)
แกรไฟต์สามารถนำไฟฟ้าได้เพราะเหตุใด
ก.
แรงยึดเหนี่ยวระหว่างชั้นเป็นแรงแวนเดอร์วาลส์
ข.
พันธะระหว่างคาร์บอนในแกรไฟต์เป็นพันธะโลหะ
ค.
เมื่อจับพันธะแล้วยังเหลืออิเล็กตรอนเคลื่อนที่ได้อิสระ
ง.
พันธะระหว่างอะตอมของคาร์บอนไม่แข็งแรง
ตอบ ค.
7)
ข้อใดเป็นสมบัติที่แสดงว่าโซเดียมคลอไรด์เป็นสารประกอบไอออนิก
ก.
โซเดียมคลอไรด์มีสถานะของแข็ง มีจุดเดือดจุดหลอมเหลวสูง
ข.
โซเดียมคลอไรด์สามารถละลายน้ำได้
ค.
โซเดียมคลอไรด์เมื่อละลายน้ำแล้วนำไฟฟ้าได้
ง.
โซเดียมคลอไรด์ไม่นำไฟฟ้า
ตอบ ค.
8)
เหตุผลใดที่ทำให้โลหะมีผิวมันวาวเมื่อกระทบกับแสง
ก.
เพราะพันธะในโลหะเกิดจากกลุ่มไอออนบวกกับกลุ่มหมอกอิเล็กตรอนดึงดูดกัน
ข.
เพราะกลุ่มไอออนบวกในก้อนโลหะมีการจัดเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบ
ค.
เพราะไอออนบวกในก้อนของโลหะเกิดปฏิกิริยาต่อความถี่ของแสง
ง.
เพราะกลุ่มหมอกอิเล็กตรอนที่เคลื่อนที่อย่างอิสระมีปฏิกิริยาต่อแสง
ตอบ ข.
9)
ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับโลหะ
ก.
โลหะที่มีอะตอมขนาดเล็กจะมีพันธะโลหะที่แข็งแรง
ข.
โลหะทุกชนิดมีสถานะของแข็ง มีจุดเดือดจุดหลอมเหลวสูง
ค.
โลหะสามารถนำไฟฟ้าได้เนื่องจากมีอิเล็กตรอนที่สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ
ง.
โลหะบางชนิดเป็นโลหะอ่อนสามารถใช้มีดตัดได้
ตอบ ก.
10)
การเปลี่ยนแปลงในข้อใด จัดว่ามีการเปลี่ยนแปลงทางเคมีเกิดขึ้น
ก.
เกิดฟองแก๊ส
ข.
มีสีเปลี่ยนแปลงไป
ค.
เกิดตะกอน
ง.
สังเกตได้จากทั้งข้อ 1., 2. และ 3.
ตอบ ง.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น