วันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2561

สารเคมีรั่วไหลตาย4ศพ

สารเคมีรั่วไหลตาย4ศพ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากรัฐเท็กซัสประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่16พ.ย.ว่า นายแรนดัลล์ คลีเมนต์ผู้จัดการโรงงานดูปองต์ซึ่งตั้งอยู่ในย่านลาปอร์เต20กม.ทางตะวันออกของเมืองฮุสตันรัฐเท็กซัส แถลงว่าสารเคมีอันตรายเมทิล เมอร์แคพเทนได้รั่วไหลออกมาจากแผนกหนึ่งของโรงงานดูปองต์เมื่อเวลาประมาณ 04.00น.ของวันเสาร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่นเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมการรั่วไหลได้ในอีก2ชั่วโมงต่อมามีคนงานหลายคนสัมผัสการรั่วไหลของสารเคมีอันตรายมีคนงานเสียชีวิต 4ศพ และบาดเจ็บอีก1คน ถูกนำส่งโรงพยาบาลแล้วสาเหตุกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนโดยทางโรงงานจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทั้งในระดับท้องถิ่นรัฐและรัฐบาลสหรัฐ

สารเคมีอันตรายเมทิล เมอร์แคพเทนใช้สำหรับการผลิตภัณฑ์ป้องกันพืชไร่เช่นยาฆ่าแมลง และสารฆ่าเชื้อราเป็นต้น

โรงงานดูปองต์มีพนักงาน 320คน และยังมีอีก4บริษัทซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณเขตอุตสาหกรรมเดียวกันนี้

ชาวจีนขวัญผวา โรงงานเคมีในฮกเกี้ยนระเบิด ไฟลุกท่วม


ชาวจีนขวัญผวา โรงงานเคมีในฮกเกี้ยนระเบิด ไฟลุกท่วม




ชาวบ้านในหมู่บ้านสิงไจ้คนหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากตัวโรงงานไม่ถึง 1 กม. เผยว่า แรงระเบิดได้สั่นกระแทกมาถึงหน้าต่างบ้านของเขา ทำให้กำแพงและเพดานบ้านที่เพิ่งปลูกใหม่ร้าว
ชาวบ้านคนหนึ่งเล่าว่า หลังจากการระเบิด เปลวไฟลุกขึ้นไปสูงเสียดฟ้า 50 เมตร ต่อมาดับเพลิงก็สามารถคุมสถานการณ์ไว้ได้ รัฐบาลท้องถิ่นระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีสารเคมีใดรั่วไหลออกมา
โครงการเคมีพาแรกซีลีนนี้เดิมทีต้องการจะสร้างขึ้นที่เมืองชายฝั่งอย่างซย่าเหมิน ทว่าชาวบ้านประท้วงอย่างรุนแรงเนื่องจากกลัวภัยจากการรั่วไหล ทำให้รัฐบาลต้องย้ายฐานโครงการก่อสร้างออกมาอยู่ที่ที่ประชากรหนาแน่นน้อยกว่าอย่างเมืองจังโจว
เหตุการณ์ระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นพร้อม ๆ กับช่วงที่สื่อพีเพิลเดลีของรัฐบาลจีนออกมาบอกว่า โครงการพาแรกซีลีนของจีนมีประวัติดี ความปลอดภัยสูงทั้งในจีนเองและไม่ว่าที่ไหนบนโลกใบนี้

วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2561

ระทึก! สารเคมีรั่วกรุงเทพกรีฑา-เร่งตรวจสอบ

ระทึก! สารเคมีรั่วกรุงเทพกรีฑา-เร่งตรวจสอบ

เกิดเหตุระทึก! สารเคมีไม่ทราบชนิด รั่วไหล บริเวณ ซอยกรุงเทพกรีฑา 35 เจ้าหน้าเร่งตรวจสอบ
เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุพบสารเคมีถูกทิ้งลงแหล่งน้ำ บริเวณหน้า บริษัท คอมฟอร์ม จำกัด ตรงข้ามซอยกรุงเทพกรีฑา 35 ถนนกรุงเทพกรีฑา แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง เบื้องต้น เจ้าหน้าที่สำนักอนามัย เจ้าหน้าที่เขตสะพานสูง ดับเพลิงหัวหมาก และห้วยขวางรุดที่เกิดเหตุ พร้อมนำเครื่องตรวจวัดสารเคมีเพื่อตรวจสอบ
พบเป็นสารเคมีรั่วไหลออกมากจากบริษัท คอมฟอร์ม จำกัด ลงไปที่บริเวณบ่อระบายน้ำด้านหน้าบริษัทจำนวน 3 บ่อ ทำให้น้ำในบ่อที่ 1 และบ่อที่ 2 ลักษณะของน้ำเป็นสีชมพู และบ่อที่ 3 ลักษณะเป็นสีดำมีคราบน้ำมันปะปน
โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบชนิดของสารเคมีดังกล่าว และป้องกันสารเคมีรั่วไหลลงสู่คลองสาธารณะ ทั้งนี้ ได้มีการกั้นบริเวณโดยรอบเพื่อป้องกันเหตุและห้ามประชาชนเข้าใกล้ในพื้นที่
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบเป็นสาร Kerosene ลักษณะเป็นของเหลวไวไฟ มีคุณสมบัติกัดกร่อน pH5 กระจายตัวในท่ออระบายน้ำหน้าโรงงานประมาณ 200 เมตร
ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ใช้กระดาษซับสารที่อยู่บริเวณผิวหน้าและตักใส่ถุง และใช้สารสลายคราบไขมันฉีดพ่น เพื่อกำจัดคราบสารเคมี

รัสเซียเร่งตรวจสอบ แม่น้ำใกล้โรงงานนิกเกิลกลายเป็นสีเลือด อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/content/716710

รัสเซียเร่งตรวจสอบ แม่น้ำใกล้โรงงานนิกเกิลกลายเป็นสีเลือด


เจ้าหน้าที่ของประเทศรัสเซียกำลังเร่งตรวจสอบหาสาเหตุที่ทำให้แม่น้ำสายหนึ่งในเมืองโนริลสก์ ตอนกลางของประเทศ กลายเป็นสีแดงเข้ม โดยสงสัยว่าอาจมีสารเคมีรั่อาจมีสารเคมีรั่วไหลจากโรงงานนิกเกิลที่อยู่ใกล้เคียง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสิ่งแวดล้อมของประเทศรัสเซีย กำลังพยายามหาสาเหตุว่าทำไม แม่น้ำดัลดีคาน ซึ่งอยู่ใกล้กับ โรงงานอุตสาหกรรมของบริษัท 'โนริลสก์ นิกเกิล' ซึ่งเป็นผู้ผลิตนิกเกิลและพัลลาเดียม รายใหญ่ที่สุดของโลก ในเมืองโนริลสก์ จึงกลายเป็นสีแดงคล้ายเลือด ข่าวระบุว่า แม่น้ำดัลดลดีคานเริ่มกลายเป็นสีแดงตั้งแต่เมื่อวันอังคาร โดยชาวบ้านท้องถิ่นได้โพสต์ภาพความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับแม่น้ำสายนี้ลงบนโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง จนทางการต้องเร่งเข้ามาตรวจสอบ โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศของรัสเซียยืนยันว่า พวกเขาได้รับรายงานว่าแม่น้ำสายนี้ปนเปื้อนสารเคมีที่ยังไม่อาจระบุชนิได้ และอาจมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นที่โรงงานของ โนริลสก์ นิกเกิล










สารเคมีรั่วไหลจากเรือในแคลิฟอร์เนีย

สารเคมีรั่วไหลจากเรือในแคลิฟอร์เนีย



เกิดเหตุสารเคมีรั่วไหลจากเรือลำหนึ่งที่จอดเทียบท่าในเขตลองบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐฯ
เหตุสารเคมีรั่วไหลในครั้งนี้ เกิดขึ้นช่วงเช้าวันอาทิตย์ ตามเวลาในท้องถิ่น ที่ท่าเรือในเขตลองบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐฯ โดยสารเคมีที่รั่วไหลออกมานี้ พบว่า เป็นสารโพรพิว อะซีเตท (Propyl acetate) ซึ่งเป็นสารละลายเข้มข้นที่ใช้ในงานอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งหากได้รับสารเข้าไปในปริมาณมากอาจส่งผลให้เกิดการระคายเคืองที่ตา ผิวหนัง หรือส่งผลต่อปอด โดยสารเคมีที่รั่วไหลออกมา มีจำนวนมากถึง 6,000 แกลลอน เบื้องต้นมีรายงานลูกเรือได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 11 คน และมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ที่เข้ามาช่วยเหลือได้รับบาดเจ็บอีก 1 นาย เนื่องจากหกล้ม ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่รักษาการณ์ท่าเรือ ได้ปิดล้อมพื้นที่รอบเรือในรัศมีเกือบ 3 เมตรเพื่อความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ เข้าไปประเมินความเสียหายและทำความสะอาดสารเคมีดังกล่าว เบื้องต้นยังไม่สามารถกำหนดเวลาในการกำจัดสารเคมีทั้งหมดได้

พบสารเคมีต้องห้ามเมื่อเกือบ 40 ปีก่อน ตกค้างในส่วนลึกที่สุดของมหาสมุทรแปซิฟิก

พบสารเคมีต้องห้ามเมื่อเกือบ 40 ปีก่อน ตกค้างในส่วนลึกที่สุดของมหาสมุทรแปซิฟิก

สารเคมีเหล่านี้ถูกใช้อย่างกว้างขวางในช่วงศตวรรษที่ 20 ซึ่งหลังจากนั้นก็พบว่าเป็นพิษและสะสมในสภาพแวดล้อม
ดร.อลัน เจมีสัน และคณะวิจัยจากมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล ได้เก็บตัวอย่างจากเนื้อเยื่อไขมันของแอมฟิพอด (สัตว์น้ำที่มีเปลือกแข็งชนิดหนึ่ง) ที่อยู่ลึกลงไปใต้ผิวน้ำในมหาสมุทรแปซิฟิก โดยใช้ยานดำน้ำสำรวจพื้นมหาสมทุรที่ออกแบบมาพิเศษ ปล่อยจากเรือที่ลอยอยู่เหนือร่องน้ำมารีอานา และเคอร์มาเดค ลึกลงไป 10 กิโลเมตร และห่างกัน 7,000 กิโลเมตร
แอมฟิพอด ถูกนำขึ้นมาจากร่องน้ำเคอร์มาเดคและมารีอานา ในมหาสมุทรแปซิฟิกImage copyrightDR ALAN JAMIESON, NEWCASTLE UNI
คำบรรยายภาพแอมฟิพอด ถูกนำขึ้นมาจากร่องน้ำเคอร์มาเดคและมารีอานา ในมหาสมุทรแปซิฟิก
สารที่ไม่ย่อยสลาย
สารก่อมลพิษที่พบในตัวแอมฟิพอด รวมถึง โพลีคลอรีเนต ไบเฟนิล (PCBs) และโพลีโบรมิเนต ไดเฟนิล เอเธอร์ (PBDEs) ซึ่งใช้ในการผลิตฉนวนสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และวัสดุทนไฟ
รัฐบาลสหรัฐฯ ได้สั่งห้ามการผลิต PCB เมื่อปี 1979 และในปี 2001 ก็มีการลงนามในอนุสัญญาสต็อกโฮล์มว่าด้วยสารมลพิษที่ตกค้างยาวนาน (Stockholm Convention on Persistent Organic Pollutants)
แต่ปริมาณการผลิตสาร PCBs ทั่วโลก จากช่วงปี 1930 จนถึงที่ถูกสั่งห้ามในปี 1970 คาดว่าจะมีถึง 1.3 ล้านตัน ซึ่งสารที่ถูกปล่อยสู่สภาพแวดล้อมทั้งจากอุบัติเหตุในอุตสาหกรรม และการไหลซึมจากกองขยะ สามารถทนทานต่อการย่อยสลายตามธรรมชาติได้ ทำให้ยังคงตกค้างอยู่ในสภาพแวดล้อม และในผลการศึกษาระบุว่า ยากที่จะขยายขอบเขตการวิเคราะห์ระดับการปนเปื้อนของสารที่พบบริเวณพื้นมหาสมุทรแปซิฟิก โดยสาเหตุส่วนหนึ่ง มาจากการใช้วิธีวัดค่าและเก็บข้อมูลสารปนเปื้อนที่ต่างกันในผลศึกษาก่อนหน้านี้
พบสารเคมีในห่วงโซ่อาหาร
รายงานระบุด้วยว่า ระดับสาร PBCs พี่พบในร่องน้ำลึกมารีอานา สูงกว่าที่พบในตัวปูจากบริเวณทุ่งนาที่รับน้ำจากแม่น้ำเลี่ยวเหอ ซึ่งเป็นหนึ่งในแม่น้ำที่มีมลพิษมากที่สุดในจีน โดย ดร.เจมีสัน กล่าวว่า "แอมฟิพอด ที่เก็บตัวอย่างได้ มีระดับสารพิษปนเปื้อน มากพอ ๆ กับในอ่าวซูรุกะ ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหนึ่งในเขตอุตสาหกรรมที่มีมลภาวะสูงที่สุดของทางตะวันตกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิก"

ภาวะฉุกเฉินสหรัฐ!สารเคมีรั่วลงแม่น้ำ

 ภาวะฉุกเฉินสหรัฐ!สารเคมีรั่วลงแม่น้ำ



 11 ม.ค.57 เกิดเหตุสารเคมีรั่ว ทำให้น้ำประปาที่จ่ายให้ประชาชน 3 แสนคน รอบเมืองชาร์ลสตัน ซึ่งเป็นเมืองเอกและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย ของสหรัฐ ปนเปื้อนจนกลายเป็นสีเขียวอมน้ำเงิน และมีกลิ่นคล้ายชะเอม  สารเคมีอาจรั่วไหลไปตามท่อประปา เป็นระยะทาง 2,400 กิโลเมตร เนื่องจากการไหลลงแม่น้ำเอลค์ ส่งผลกระทบต่อคลองรับน้ำประปาคานาฮวา วัลลีย์ ของบริษัทเวสต์เวอร์จิเนีย อเมริกันวอเตอร์ โค ผู้ให้บริการระบบน้ำประปาของเอกชนในรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย ด้านส่วนเจ้าหน้าที่ของสำนักงานสิ่งแวดล้อมรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย กำลังเร่งอุดรูรั่วในท่อส่งสารเคมีเพื่อระงับการรั่วไหล จากนั้นจึงจะดำเนินการตรวจสอบผลกระทบทางสุขภาพและสิ่งแวดล้อมเป็นขั้นต่อไป แต่ยังไม่มีรายงานผู้ล้มป่วยจากเหตุเกี่ยวข้องกับสารเคมี และสั่งให้ฟรีดอม อินดัสทรี่ส์ จัดการย้ายสารเคมีทั้งหมด ที่เก็บอยู่ในแทงค์เหนือพื้นดิน 14 แทงค์ ใกล้กับแม่น้ำเอลค์ ภายใน 24 ชั่วโมง
เกาหลีใต้ประกาศเขตภัยพิบัติ หลังสารเคมีรั่วไหล-เสียหายหนัก

กรดไฮโดรฟลูออริก หรือกรดกัดแก้ว ปริมาณสูงถึง 8 ตัน รั่วไหลออกจากโรงงานผลิตสารเคมี ใกล้กับเมืองกูมิ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศเกาหลีใต้ ส่งผลให้มีคนงานเสียชีวิต 5 ศพ เนื่องจากสารเคมีระเบิดขณะทำการขนย้าย และประชาชนกว่า 3,000 คน ล้มป่วยด้วยอาการคลื่นไส้ มีผื่นคันตามร่างกาย รวมถึงเจ็บคอและเจ็บหน้าอก มีเลือดในน้ำลายด้วย 

เกาหลีใต้ประกาศเขตภัยพิบัติ หลังสารเคมีรั่วไหล-เสียหายหนัก
          นอกจากนี้ ยังก่อให้เกิดความเสียหายอย่างหนักในพื้นที่หมู่บ้านชนบท พื้นที่เกษตรกรรมได้รับความเสียหายกว่า 500 เอเคอร์ สัตว์ที่เลี้ยงไว้ล้มตายกว่า 3,200 ตัว และทำให้บริษัท 80 แห่ง จำต้องปิดตัวลงสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 17.7 พันล้านวอน (ประมาณ 492 ล้านบาท)
          สำหรับมาตรการในการช่วยเหลือเบื้องต้นของรัฐบาลเกาหลีใต้ ได้มีการอพยพชาวบ้านกว่า 300 คน ออกจากพื้นที่ให้ไปอยู่ที่พักอาศัยชั่วคราวที่ปลอดภัยกว่า และให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการป้องกันสารพิษ ตลอดจนการเยียวยาประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ โดยจะได้รับความช่วยเหลือด้านการเงิน ที่ครอบคลุมถึงการได้ลดภาษีเป็นการชั่วคราว และค่าชดเชยจากส่วนราชการในจำนวนที่เหมาะสม

สารเคมีรั่วจากโรงงานในจีน ควันสีแดงพวยพุ่งปกคลุมทั่วฟ้า

สารเคมีรั่วจากโรงงานในจีน ควันสีแดงพวยพุ่งปกคลุมทั่วฟ้า


เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากถังเก็บสารโบรมีนเกิดเอียง ทำให้สารละลายด้านในรั่วไหลออกมา จนเกิดกลุ่มควันปกคลุมเหนือโรงงานลักษณะสีแดงฉาน
สารโบรมีนเป็นสารเคมีซึ่งมีสถานะเป็นของเหลวสีแดง ระเหยง่ายที่อุณหภูมิห้อง มีความไวต่อปฏิกิริยาเคมี และมีกลิ่นเหม็นตามชื่อเรียกในภาษากรีก (Bromos) โดยสารเคมีชนิดนี้เป็นอันตรายเพราะก่อให้เกิดการระคายเคืองเนื้อเยื่อมนุษย์ เช่น ไอระเหยจะทำให้เกิดอาการแสบตา หลอดลมและเยื่อจมูกอักเสบ หากสัมผัสจะเกิดอาการคัน โบรมีนจะถูกใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ผลิตน้ำมันเชื้อเพลิง ยอมและฟอกสี พลาสติก เภสัชภัณฑ์ เป็นต้น

Carbon nanodots do an ultrafine job with in vitro lung tissue

Carbon nanodots do an ultrafine job with in vitro lung tissue




Epidemiological studies have established a strong correlation between inhaling ultrafine particles from incomplete combustion and respiratory and cardiovascular diseases. Still, relatively little is known about the mechanisms behind how air particulates affect human health. New work seeks to provide the first model of how ultrafine carbon-based particles interact with the lung tissues. Researchers created a 3D lung cell model system to investigate how carbon-based combustion byproducts behave as they interact with human epithelial tissue.

Artificial cells are tiny bacteria fighters

Artificial cells are tiny bacteria fighters




ผู้ช่วยศาสตราจารย์ Cheemeng Tan ผู้ซึ่งนำงานกล่าวว่า "เราได้ออกแบบเซลล์เทียมจากบล็อกแบบเลโก้ด้านล่างเพื่อทำลายแบคทีเรีย เซลล์ถูกสร้างขึ้นจาก liposomes หรือฟองอากาศที่มีเมมเบรนของไขมันในเซลล์และส่วนประกอบของเซลล์ที่บริสุทธิ์ ได้แก่ โปรตีนดีเอ็นเอและสารเมตาบอไลท์
"เราแสดงให้เห็นว่าเซลล์เทียมสามารถรับรู้ตอบสนองและมีปฏิสัมพันธ์กับแบคทีเรียรวมถึงการทำงานของระบบที่สามารถตรวจจับและฆ่าเชื้อแบคทีเรียด้วยการพึ่งพาสิ่งแวดล้อมได้เล็กน้อย"
เซลล์เทียมของทีมเลียนแบบคุณสมบัติที่สำคัญของเซลล์ที่มีชีวิต แต่มีอายุสั้นและไม่สามารถแบ่งการสืบพันธุ์ได้ เซลล์ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อลายเซ็นเคมีที่ไม่ซ้ำกันในแบคทีเรีย E. coli พวกเขาสามารถตรวจจับโจมตีและทำลายแบคทีเรียในการทดลองในห้องปฏิบัติการได้

สารเคมีรั่วไหลตาย4ศพ

สารเคมีรั่วไหลตาย4ศพ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากรัฐเท็กซัสประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่16พ.ย.ว่า นายแรนดัลล์ คลีเมนต์ผู้จัดการโรงงานดูป...